ดอกมะลิ

วันแม่แห่งชาติ ประวัติความเป็นมาวันแม่แห่งชาติ

ความหมายของคำว่า “แม่

คำว่า “แม่” พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า “แม่” ไว้ดังนี้

แม่ หมายถึง หญิงในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูก, คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน
ในทางพระพุทธศาสนา ได้ให้ความหมายของคำว่า “แม่” ซึ่งหมายถึง หญิงที่มีครอบครัวไว้หลายนัย เช่น

1. แม่ บางทีเรียกว่า มารดา มารดร หมายถึง เป็นใหญ่ เช่น แม่ทัพ แม่น้ำ แม่กอง เป็นต้น อันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ภายในกิจการนั้นๆ ในที่นี้มาใช้กับผู้ให้กำเนิดแก่ลูกและหาตัวแทนไม่ได้
– หญิงในฐานะผู้ให้กำเนิดแก่ลูก และหาตัวแทนไม่ได้
– คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน
– คนที่เป็นหัวหน้า หรือเป็นนาย โดยไม่จำกัดว่าเป็นชายหรือหญิง เช่น แม่ทัพ แม่กอง ฯลฯ
รวมความแล้ว “แม่” คือ ผู้รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน โดยการรับผิดชอบนั้นมีขอบเขตภายในบ้านเรือน

2. ชนนี หมายถึง ผู้ให้กำเนิดลูก, เป็นที่บังเกิดเกล้าของลูก

3. ภรรยา หรือภริยา หมายถึง
– เมีย หรือ หญิงผู้เป็นคู่ครองของชาย
– ผู้เลี้ยง หรือผู้ดูแลสมาชิกของครอบครัว

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติ

ชาวอเมริกันเป็นผู้กำหนดให้มีวันแม่อย่างเป็นทางการขึ้น และผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา คือ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย แต่กว่าเธอจะประสบความสำเร็จก็ครบ 2 ปีพอดีในปี พ.ศ.2457 โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย

วันแม่แห่งชาติ งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีงานวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน

ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทำไมจึงใช้ดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่

การที่ใช้ดอกมะลิ เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมที่หอมไปไกลและหอมได้นาน ผลิดอกได้ทั้งปี อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ลึกซึ้งที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระภาดา (พี่ชาย) 2 องค์ และและพระขนิษฐภคินี (น้องสาว) 1 องค์ ดังนี้ หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. 2472) หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. 2473) และ หม่อมราชวงศ์หญิง บุษบา กิติยากร (ชาตะ พ.ศ. 2477)

ในระหว่างยังทรงพระเยาว์ สถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้สงบนัก เนื่องจากเพิ่งพ้นจากช่วงของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ไม่นาน หม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องทรงออกจากราชการ รัฐบาลแต่งตั้งให้ไปรับตำแหน่งเลขานุการเอกประจำสถานทูตสยาม ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่วนหม่อมหลวงบัวซึ่งมีครรภ์แก่ ได้เดินทางไปสมทบหลังจากให้กำเนิดหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์แล้ว โดยมอบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ให้อยู่ในความดูแลของบิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว ดังนั้นจึงต้องอยู่ไกลจากบิดามารดาตั้งแต่อายุน้อย บางคราวต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เช่น พ.ศ. 2476 หม่อมเจ้าอัปสรสมาน กิติยากร พระมารดาของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ได้ทรงรับนัดดาตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปอยู่ที่จังหวัดสงขลา ปลายปี พ.ศ. 2477 หม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงลาออกจากราชการแล้วกลับมาประเทศไทย จึงทำให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 2 ปี 6 เดือน ได้กลับมาอยู่รวมพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว ณ ตำหนักบริเวณถนนกรุงเกษม ปากคลองผดุงกรุงเกษม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

การศึกษา
พ.ศ. 2479 เมื่อหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์มีอายุได้ 4 ขวบ ก็ได้เข้ารับการศึกษาครั้งแรกในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี ทว่าในขณะนั้น แม้เหตุการณ์ด้านการเมืองภายในประเทศไทยจะสงบลง แต่สถานการณ์ระหว่างประเทศก็ไม่สงบ กล่าวคือ สงครามมหาเอเชียบูรพาเริ่มแผ่ขยายมาถึงประเทศไทย กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้งจนการคมนาคมไม่สะดวก พระบิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังพระบิดา ได้เรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จนจบชั้นมัธยมศึกษา หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้เรียนเปียโน ซึ่งเรียนได้ดีและเร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสด้วย

พ.ศ. 2489 ครั้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง หม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องเสด็จไปดำรงตำแหน่งรัฐทูตวิสามัญและอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้โดยได้ทรงพาครอบครัวทั้งหมดไปอยู่ด้วย ในเวลานั้นหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ มีอายุได้ 13 ปีเศษ และเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว
ขณะที่อยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้ศึกษาต่อทั้งวิชาภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส และวิชาเปียโนกับครูพิเศษ หลังจากนั้นไม่นาน พระบิดาย้ายไปเดนมาร์กและฝรั่งเศส ตามลำดับ ขณะที่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ก็ยังคงเรียนเปียโน และตั้งใจจะศึกษาต่อในวิทยาลัยการดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส

ระหว่างที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้มีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช (ขณะนั้นทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสกรุงปารีส โดยทางรถยนต์จากสวิตเซอร์แลนด์ เพราะประสงค์จะเลือกซื้อรถยนต์พระที่นั่งแทนคันเดิม และยังได้รับชมการแสดงดนตรีของคณะที่มีชื่อเสียงด้วย ในระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินมายังกรุงปารีส ก็ได้ประทับที่สถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกันกับนักเรียนไทยคนอื่นในสมัยนั้น ทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดการดนตรีเป็นพิเศษ ขณะที่หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ก็สนใจศิลปะเช่นกัน ทำให้เกิดความความสัมพันธ์ขึ้น

ทรงหมั้น
วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยมีหม่อมหลวงบัวและหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการเป็นประจำ และในช่วงระยะเวลาที่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์อยู่เฝ้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ (พระนามในเวลานั้น) ได้ทรงรับเป็นธุระจัดการให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เข้าศึกษาในโรงเรียน Pensionnat Riante Rive [ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งของโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากอาการประชวรแล้ว ก็ได้ทรงหมั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เป็นการภายในเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492

หลังจากทรงหมั้นแล้ว หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ยังคงศึกษาต่อ กระทั่ง พ.ศ. 2493 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนครเพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระองค์ท่านโปรดฯ ให้หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ตามเสด็จพระราชดำเนินกลับมาด้วย

อภิเษกสมรส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงสายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น ณ วังสระปทุม และโปรดเกล้าฯ สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์

หลังจากครองราชย์สมบัติอย่างกะทันหัน พระบาทสมเด็จพระหัวอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 และโปรดฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรักษาพระองค์และทรงศึกษาต่อ แล้วเสด็จฯ กลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2495

พระราชโอรสธิดา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชโอรส และพระราชธิดา 4 พระองค์ ดังนี้
1. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประสูติ ณ สถานพยาบาลมองซัวซี นครโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2494 ต่อมาได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ (ปัจจุบัน ทรงพระนามว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี) เพื่อสมรสกับนายปีเตอร์ เลด เจนเซ่น ชาวอเมริกัน ทรงมีพระโอรส 1 องค์ และพระธิดา 2 องค์
2. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักราดิศรสันตติวงศ์ เทเวศรธำรงสุรบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดชภูมิพลนเรศวรางกูร กิติสิริสมบูรณ์ สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร ประสูติ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2495 ต่อมา ทรงได้รับการสถาปนา ขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฏราชกุมาร เมื่อ พ.ศ. 2515
3. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ประสูติ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ต่อมาทรงได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระอิสริยยศ เป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เมื่อ พ.ศ. 2520
4. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประสูติ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม พ.ศ. 2500 ทรงอภิเษกสมรสกับ เรืออากาศโท (ยศในขณะนั้น) วีระยุทธ ดิษยะศริน ทรงมีพระธิดา 2 พระองค์

ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
เมื่อ พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออกผนวชเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน และระหว่างที่ผนวช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธยเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ปีเดียวกัน

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ

1. ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
2. ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
3. การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ และประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน
4. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การประกวดต่างๆ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่
5. การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล
6. นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่

เพลงค่าน้ำนม

แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล

แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล

แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอม ย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ

เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม

ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋า

ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน

ค่าน้ำนมชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน

บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกันทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย

เพลงค่าน้ำนม เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
Value of Mother’s milk

แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
Mothers are tremendous benefactor for all of us.

ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
Mothers keep caring since we were sleeping in cradles.

แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
Mothers keep singing lullabies for babies

กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
and never leave them anywhere.

เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
Since we were still young until today, mothers always care of us

แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
She is so tired that becomes thin because she loves her baby a lot.

เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
We all grow up today,

นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
not because of anything else than mothers’ milk.

* ควร คิดพินิจให้ดี
Please be thoughtful

ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
and you’ll find that Mother’s milk cannot be compared with anything.

โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
Mother,I miss the value of your milk that feeds me

เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
It was mixed with blood in your heart and then becomes milk for baby.

ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
The value of it reminds me of appreciation

แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
It is comparable to the sky and heavier than the earth.

บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
No matter you will ordain or complete your study for her

หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
stil it cannot compare to the one drop of her milk. Nothing can indemnify it.

เพลงใครหนอ

ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวี
ใคร หนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใคร หนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย
รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใคร หนา

ใคร หนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน
ใคร หนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใคร หนอ รักเราดังดวงแก้วตา
รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ

จะเอาโลก มาทำปากกา
แล้วเอานภา มาแทน กระดาษ
เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด
ประกาศ พระคุณไม่พอ

ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน)
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ (คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ

ดนตรี

ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน)
ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ(คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ
รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ

ของขวัญสำหรับวันแม่

คุณแม่ธาตุดิน เป็นคนมีอุปนิสัยหนักแน่น มองโลกในแง่ที่เป็นจริง มีความแคล่วคล่องว่องไว ปรับตัวได้ง่าย และมีความอดทนสูง แม้จะมีอุปสรรคในชีวิต ก็จะไม่ยอมท้อถอย พร้อมจะสู้ให้ถึงที่สุด เป็นนักวางแผน แต่ออกจะเป็นคนหัวโบราณ ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆโดยง่าย

ของขวัญโดนใจ : เข้าไปกอดและบอกว่ารักแม่มากแค่ไหน หรือพาแม่ไปช้อปปิ้งซื้อของที่ชอบ พาไปทำบุญที่วัดหรือโรงพยาบาลสงฆ์ หรือพาไปเที่ยวทะเล น้ำตก อุทยานประวัติศาสตร์ หรืออุทยานแห่งชาติให้แม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติ พาแม่ไปนวดเท้านวดตัวเป็นพิเศษ หรือร่วมมือกับพ่อและพี่ๆ น้องๆ ทำงานบ้านทุกอย่างแทนแม่ในวันแม่

คุณแม่ธาตุน้ำ จะเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวที่สุด ชอบวิเคราะห์สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ดี เชื่อในเรื่องโชคชะตาและพรหมลิขิต ชอบเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง ชอบปกป้องผู้อื่น

ของขวัญโดนใจ : อาจจะมอบของขวัญโดยร่วมกับพ่อ พาแม่ไปเที่ยวในสถานที่ที่แม่ชอบหรือประทับใจในอดีต มอบบัตรอวยพรหรือกลอนที่ลูกๆเขียนขึ้นจากใจให้แม่ พาลูกๆ หลานๆ มาช่วยกันทำอาหารพิเศษให้แม่ทานหรือพาไปกินข้าวร้านที่อร่อยๆ หรือพาแม่ไปเลี้ยงเด็กตามมูลนิธิต่างๆ จัดอาหารให้แม่ได้ทำบุญตักบาตรเป็นพิเศษในวันแม่ ให้หนังสือนวนิยายหรือซีดีละครที่แม่ชอบ

คุณแม่ธาตุลม เป็นคนที่มีความคิดอ่านอย่างมีหลักเกณฑ์ และยึดถือความถูกต้องของเหตุผล ชอบคบค้าสมาคมกับคนทุกเพศทุกวัย การได้แลกเปลี่ยนสื่อสารเป็นสิ่งที่ถนัด คิดอะไรเป็นขั้นตอน ชอบถกปัญหากับเพื่อนผู้รู้ใจ

ของขวัญโดนใจ : ลูกๆ อาจมอบของขวัญด้วยการจัดปาร์ตี้ให้แม่และเพื่อนๆในกลุ่มได้มาพบปะสังสรรค์กัน หรือพาแม่ไปชมคอนเสิร์ตดังๆ ซื้อทัวร์ให้ไปเที่ยวกับเพื่อนจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ (ขึ้นกับงบของลูก) ซื้อคอร์สออกกำลังกายที่ทำให้แม่ได้พบปะคนมากหน้าหลายตา ซื้อมือถือใหม่ให้แม่และสอนให้ใช้ลูกเล่นต่างๆในการคุยกับเพื่อนหรือลูกๆหลานๆ

คุณแม่ธาตุไฟ เป็นคนสดใส ชอบทำในสิ่งที่ทำให้สบายอกสบายใจ แต่ค่อนข้างขาดความอดทน มีความกระตือรือร้นสูง ชอบทำตัวเป็นผู้นำ โกรธง่ายเจ้าอารมณ์ แต่ไม่เก็บมาคิดอาฆาตใคร มองโลกในแง่ดี

ของขวัญโดนใจ : ลูกๆอาจจะซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้ที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใครให้แม่เป็นของขวัญ พาไปเที่ยวแบบแปลกๆใหม่ๆ เช่น พาไปล่องแก่ง ปีนเขากับเราหรือหลานๆ (ถ้าแม่ไม่แก่มาก และชอบซิ่ง) ซื้อคอมพิวเตอร์ให้แม่และสอนให้เล่นเกมหรือค้นหาสิ่งต่างๆทางอินเตอร์เนท รวมทั้งโต้ตอบเมล์กับเพื่อนหรือเราได้ พาแม่ไปทัวร์ธรรมะหรือไหว้พระ 9 วัด ซื้อริสต์แบรนด์ให้แม่ใส่ หรือซื้อสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมให้แม่

ที่กล่าวข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างของขวัญที่ลูกๆอาจจะทำให้แม่ได้ตามกำลัง แต่เชื่อว่าสิ่งที่ “แม่” ไม่ว่าธาตุใดต้องการจากลูกๆ ก็คือ ความรัก และเวลาที่ลูกๆจะมีให้แม่บ้าง โดยเฉพาะลูกที่โตหรือมีครอบครัวไปแล้ว เพียงคำถามด้วยความห่วงใย และคำพูดดีๆเพราะๆ แค่นี้แม่ก็ชื่นใจแล้ว ส่วนลูกที่ยังเด็กหรือเรียนอยู่ ขอเพียงประพฤติตัวดี ตั้งใจเล่าเรียนก็เป็นของขวัญที่แม่ยินดียิ่งกว่าสิ่งใด

หากจะแยกแยะธาตุแท้ของ “แม่ทุกคน” แล้ว เราจะเห็นว่า ธาตุแม่ 1 อะตอมหัวใจ ประกอบด้วย นิวเคลียสที่มีโปรตอนแห่งความรัก นิวตรอนแห่งความห่วงหาอาทรเป็นแกนกลาง โดยมีอิเลคตรอนความปรารานาดีวิ่งโดยรอบ ธาตุแม่จึเปรียบเหมือน “พระธาตุ” ศักดิ์สิทธ์ที่คุ้มครองลูกเสมอมา

กลอนวันแม่

กลอนวันแม่ภาษาอังกฤษ

กลอนวันแม่ MOTHER’S ARE THE SWEETEST

Our mother is the sweetest and
Most delicate of all.
She knows more of paradise
Than angels can recall.

She’s not only beautiful
But passionately young,
Playful as a kid, yet wise
As one who has lived long.

Her love is like the rush of life,
A bubbling, laughing spring
That runs through all like liquid light
And makes the mountains sing.

And makes the meadows turn to flower
And trees to choicest fruit.
She is at once the field and bower
In which our hearts take root.

She is at once the sea and shore,
Our freedom and our past.
With her we launch our daring ships
Yet keep the things that last.

โดย ~Nick Gordon~

กลอนวันแม่ A WONDERFUL MOTHER

GOD made a wonderful mother,
A mother who never grows old;
He made her smile of the sunshine,
And He molded her heart of pure gold;
In her eyes He placed bright shining stars,
In her cheeks, fair roses you see;
God made a wonderful mother,
And He gave that dear mother to me.

โดย ~Pat O’Reilly~

กลอนวันแม่ A MOTHER’S LOVE

A Mother’s love is something
that no on can explain,
It is made of deep devotion
and of sacrifice and pain,
It is endless and unselfish
and enduring come what may
For nothing can destroy it
or take that love away . . .
It is patient and forgiving
when all others are forsaking,
And it never fails or falters
even though the heart is breaking . . .
It believes beyond believing
when the world around condemns,
And it glows with all the beauty
of the rarest, brightest gems . . .
It is far beyond defining,
it defies all explanation,
And it still remains a secret
like the mysteries of creation . . .
A many splendoured miracle
man cannot understand
And another wondrous evidence
of God’s tender guiding hand.

โดย ~Helen Steiner Rice~

กลอนวันแม่ WHEN YOU HAVE A MOTHER

When you have a mother
who cares so much for you
that anything you want
becomes her desires
When you have a mother
who is so understanding that
no matter what is bothering you
she can make you smile
When you have a mother
who is so strong that
no matter what obstacles she faces
she is always confident in front of you
When you have a mother
who actively pursues her goals in life
but includes you in all her goals
you are very lucky indeed
Having a mother like this
makes it easy to grow up
into a loving, strong adult
Thank you for being this kind
of wonderful mother.

โดย ~Susan P Schutz~